รางน้ำฝน ช่วยป้องกันความเสียหายให้กับบ้านของคุณ เพราะน้ำฝนที่ตกลงมาอาจรวมตัวกันเป็นมวลน้ำที่มีน้ำหนัก และไหลลงมาจนตกกระทบลงสู่พื้นด้านล่าง ดังนั้น หากเกิดการไหลตกกระทบนานๆ จึงส่งผลให้เกิดความเสียหายกับพื้นบ้าน สนามหญ้า และต้นไม้เล็กๆ ที่อยู่รอบๆ บ้าน เช่น การกัดเซาะทำให้ดินทรุด และเกิดคราบน้ำ คราบสกปรก และเชื้อราบริเวณพื้นบ้าน ผนัง และวงกบหน้าต่าง
รางน้ำฝนจึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการสร้างบ้าน เพื่อรับน้ำฝนไปสู่ระบบระบายน้ำ โดยทำให้ไม่เกิดความเสียหายให้กับพื้นที่รอบๆ บ้านอย่างแน่นอน
มารู้จัก รางน้ำฝน 4 ชนิด
ปัจจุบันรางน้ำฝนมีวัสดุให้เลือกมากมาย พร้อมกับคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่กำลังสร้างบ้านและมองหารางน้ำฝนที่เหมาะกับตัวบ้าน ลองมาดู 4 รางน้ำฝน ที่แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย และเข้ากับบ้านได้หลากสไตล์ ดังนี้
1. รางน้ำฝนสเตนเลส
รางน้ำฝนสเตนเลส เป็นวัสดุที่ป้องกันสนิม นิยมใช้ในการผลิตรางน้ำฝน โดยเฉพาะหากใช้สเตนเลสเกรด 304 ที่ความหนาแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี ราคาอยู่ในช่วง 500 – 900 บาทต่อเมตร อย่างไรก็ตาม การติดตั้งรางน้ำฝนสเตนเลสควรให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากการติดตั้งมีข้อควรระวัง เช่น การเลือกใช้วัสดุเชื่อมที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดรอยแตกหรือรั่วบริเวณจุดเชื่อมต่อราง การใช้วัสดุอาร์กอนจะทำให้มีความคงทนสูงกว่า รูปทรงของรางน้ำฝนสเตนเลสที่มาในทรงเหลี่ยม และพื้นผิวสีเงินหรือสีเทาเข้ม เข้ากันได้ดีกับบ้านสไตล์ลอฟท์ปูนเปลือย อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนสีรางน้ำฝนประเภทนี้ การทาสีทับอาจทำให้สูญเสียคุณสมบัติการป้องกันการกัดกร่อนบนพื้นผิวสเตนเลสไป
2. รางน้ำฝนอลูมิเนียม
รางน้ำฝนอลูมิเนียมเป็นวัสดุที่ป้องกันสนิม ทนทานต่อการกัดกร่อน และทนทานต่อสภาพอากาศเช่น แดดและฝน คุณสามารถสั่งทำรางน้ำฝนแบบที่คุณต้องการได้เองเพื่อให้เข้ากับบ้าน และไม่มีรอยต่อแตกต่างจากรางน้ำฝนประเภทอื่นๆ รางน้ำฝนอลูมิเนียมเหมาะสำหรับปัญหาเรื่องการผุกร่อนหรือสึกกร่อนบริเวณต่อราง น้ำหนักของรางน้ำฝนน้อย ติดตั้งง่าย แม้จะราคาค่อนข้างสูง แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 25 ปี
3. รางน้ำฝนไวนิล
รางน้ำฝนไวนิลคือรางน้ำที่มีความนิยมมากที่สุด มีวัสดุทำจากโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น แข็งแรง ทนทาน ไม่ลามไฟ และยืดหยุ่นได้ดี รางน้ำฝนไวนิลมีให้เลือกหลายสี เช่น ขาว ดำ น้ำตาลเข้ม และเทา และสามารถขึ้นรูปได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ การติดตั้งง่ายและอายุการใช้งานนานถึง 10 ปี โดยราคาขึ้นอยู่กับเกรดของไวนิลที่เลือกใช้ ราคาอยู่ในช่วง 500 – 1000 บาทต่อเมตร
4. รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส
รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาสทำจากเส้นใยไฟเบอร์กลาสและโพลีเอสเตอร์เรซิ่น มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ผุกร่อน และไม่เกิดสนิม มันเป็นเนื้อเดียวกันด้วยเทคนิคการเชื่อมต่อราง ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการรั่วซึม คุณสามารถสั่งผลิตในสีและรูปแบบตามที่คุณต้องการ เช่น สีขาว สีครีม สีดำ และสีน้ำตาล รางมีทรงเหลี่ยมหรือทรงขอบบัว ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อเมตร แต่ควรใช้ช่างที่มีความชำนาญในการติดตั้ง เพราะต้องมีการตัด เจาะ และประกอบเชื่อมต่อรางด้วยเทคนิคพิเศษโดยใช้น้ำยาเชื่อมผสมไฟเบอร์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
ความยากง่ายในการดูแลรักษารางน้ำฝนขึ้นอยู่กับวัสดุและการติดตั้งที่เหมาะสมจากช่างผู้เชี่ยวชาญ รางน้ำฝนที่ปัญญาฤทธิ์โฮมคัดเลือกมามีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งแดดและฝน และไม่เกิดสนิม ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เพียงแค่ทำความสะอาดรางให้ปราศจากเศษขยะและใบไม้ เราสามารถเลือกซื้อตะแกรงป้องกันใบไม้เสริมในรางน้ำฝนเพื่อป้องกันการอุดตันของรางและท่อระบายน้ำไม่ให้เกิดปัญหาน้ำฝนล้นราง ดังนั้น เราเพียงแค่เลือกวัสดุที่มีคุณภาพและทำการติดตั้งที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแลรักษารางน้ำฝนอีกต่อไป การติดตั้งครั้งเดียวใช้งานได้ยาวนานๆ
ที่มา : panyarithome.com
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ :
- 18 ไอเดีย บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว งบ 3-5 แสนบาท จัดได้สบายๆ
- 65 ไอเดีย โรงรถสวยๆ หลากสไตล์ เพื่อรถคันโปรดของคุณ
- 58 ไอเดียรั้วบ้านเหล็ก หลากหลายดีไซน์ เสริมความเด่น