ความคืบหน้าโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” เพราะ บ้านคนจน ต้องได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยกว่า 3.5หมื่นบาท/เดือน ก่อสร้างเสร็จแล้ว 1 พื้นที่ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง ครม.ขยายเวลาให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนอีก 1 ปี พร้อมอนุมัติกรมธนารักษ์เดินหน้าโครงการ
นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” บนที่ดินราชพัสดุ และมีมติอนุมัติให้กำหนดระยะเวลาการให้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (Pre Finance และ Post Finance) สำหรับธุรกรรมนโยบายภาครัฐ (PSA) โครงการฯ จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 โดยขยายระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี ระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2566 – 2 มกราคม 2567 เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยคงเดิม โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจปฏิบัติ ตามประกาศ ธปท. กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และมติ ครม. อย่างเคร่งครัด
ความคืบหน้า บ้านคนจน โครงการบ้านคนไทยประชารัฐ
โครงการบ้านคนไทยประชารัฐ จำนวน 2,757 ยูนิต เพื่อให้ประชาชน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน และประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยเป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย ที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตร.ม. ในระดับราคา 350,000-700,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการการผ่อนชำระสู่การเช่าระยะยาว กรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยและผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการ
ซึ่งมีมาตรการสินเชื่อ ดังนี้
1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) กำหนดอัตราดอกเบี้ย คือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1-4 ร้อยละ 2.75 ต่อปี หลังจากนั้น กรณีรายย่อย MRR – ร้อยละ 0.75 ต่อปี หรือกรณีสวัสดิการหักเงินเดือน MRR – ร้อยละ 1 ต่อปี มีระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปีโดยมีการผ่อนปรนการกำหนดอัตราส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้/ราย/เดือน (DSR) หรืออัตราส่วนภาระผ่อนชำระหนี้รวมต่อรายได้สุทธิรวม (DIR) ตามที่ธนาคารกำหนด
2. สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) กำหนดอัตราดอกเบี้ย คือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1
3. ร้อยละ 3 ต่อปี หลังจากนั้น MLR – ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ระยะการกู้ ไม่เกิน 5 ปี เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ และหรือ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัดที่เข้าร่วมพัฒนาโครงการ
ใน 8 พื้นที่ของ โครงการบ้านประชารัฐ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดขอนแก่นจังหวัดลำปาง จังหวัดนครพนม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดอุดรธานี โดยได้ดำเนินการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วใน 1 พื้นที่ คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ส่วนพื้นที่ใน 7 จังหวัดที่เหลือที่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ในวันนี้ ครม. จึงมีมติอนุมัติให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุที่รองรับการดำเนินโครงการดังกล่าวใน 7 จังหวัดเดินหน้ารองรับการดำเนินโครงการสำคัญอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล หรือนำไปบริหารจัดการหรือพัฒนาจัดหาประโยชน์เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐต่อไป เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและรัฐมีการพัฒนาที่มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน
การเสนอโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยของประชาชนไทยให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างบ้านที่มีคุณภาพสำหรับผู้คนในระดับทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าหรือรายได้น้อย อาศัยอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม หรือจำเป็นต้องการการช่วยเหลือในด้านที่อยู่อาศัยของพวกเขา
โดยโครงการมีลักษณะและวัตถุประสงค์ เช่น
1. สร้างบ้านที่มีคุณภาพ: การสร้างบ้านที่ปลอดภัย สะอาด และมีความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย เพื่อปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนี้
2. การศึกษาและการอบรม: ให้การอบรมและคำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลรักษาบ้านและสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ที่ได้รับบ้านใหม่ เพื่อให้พวกเขาสามารถดูแลบ้านได้อย่างเหมาะสม
3. การสนับสนุนทางเศรษฐกิจ: รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับประชาชนที่อยู่ในสภาพที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมให้สามารถเข้าถึงงานทำและเครื่องมือช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีรายได้
4. การสร้างชุมชนที่ยั่งยืน: สร้างพื้นที่ที่เพื่อให้ผู้คนสามารถมาช่วยเหลือกันและร่วมกันพัฒนาชุมชน รวมถึงการสร้างโอกาสในการศึกษาและพัฒนาทักษะในระดับชุมชน
5. การดูแลสิ่งแวดล้อม: ในกระบวนการสร้างบ้านหรือพัฒนาสภาพที่อยู่อาศัยใหม่ ควรพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดต่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินการให้มีการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
โครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” จึงเป็นโครงการที่มีความสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านที่อยู่อาศัย และในการสร้างสังคมที่แข็งแรงและยั่งยืนขึ้นอย่างยั่งยืน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย
1. ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2. ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาท/คน/เดือน
3. ประชาชนทั่วไป โดยพิจารณาให้สิทธิ์กับผู้ได้รับสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อนเป็นลำดับแรก
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล :
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ศูนย์ต่อด้านข่าวปลอม ประเทศไทย
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ :
- โครงการ SILVERLAKE VIND ปิดยอดขายเฟสแรก ทะลัก 85%
- รางน้ำฝน เลือกยังไงให้เหมาะกับบ้าน น้ำไหลได้ดีดูแลได้ง่าย
- 4 ข้อดี แต่งบ้านโทนสีเขียว เสริมมงคล เหนี่ยวทรัพย์